Yamaha Factory Racing Team กับความทุ่มเท และ ตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมกับการไล่ล่าแชมป์เกมส์การแข่งขันรถจักยานยนต์แบบมาราธอนในรายการซูซูก้า เอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมง โรดเรซ 38th "Coca-Cola Zero" Suzuka 8 Hours Endurance Road Race จนสามารถคว้าชัยชนะ มาครองได้สำเร็จ ด้วยสุดยอดรถจักรยานยนต์
ซูเปอร์สปอร์ตในตระกูล อาร์ ซีรี่ส์ กับ ยามาฮ่า YZF-R1 ทั้งยังเป็นการกลับมาครองแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสที่ยามาฮ่ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่นครบรอบ 60 ปี และเป็นการกลับมาชนะครั้งแรกในรอบ 19 ปีด้วย
ยามาฮ่ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่น ต้องเป้าหมายในเกมส์มอเตอร์สปอร์ต กับการส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบแบบเอ็นดูร้านซ์ ในรายการ 38th" Coca-Cola Zero " Suzuka 8 Hours Endurance Road Race 2015 ที่จัดขึ้นตามโปรแกรมการแข่งขันในระว่าง วันที่ 23-26 กรกฎาคม ด้วยสุดยอดรถจักรยานยนต์
ซูเปอร์สปอร์ตในตระกูล อาร์ ซีรี่ส์ กับยามาฮ่า YZF-R1 โดยมีนักแข่งจากโมโตจีพีและ ออลเจแปนเป็นผู้ขับขี่ โดย ยามาฮ่า ได้ตั้งทีม Yamaha Factory Racing Team พร้อมดึง โพล เอสปากาโร่, แบรดลี่ย์ สมิต นักแข่งจากรุ่นโมโตจีพี พร้อมด้วย คัทซึยูกิ นากาซึกะ แชมป์ในรุ่น JSB 1000 มาร่วมทีมและส่งลงทำการแข่งขันพร้อมวางเป้าหมายกับการกลับมาคว้าชัยชนะในรายการแข่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของโลกให้ได้
หลังผ่านการซ้อม และ การควอลิฟาย Yamaha Factory Racing Teamสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อสามารถคว้า Super Pole มาครองได้สำเร็จด้วยเวลา 2'06.000 นาที ทำสถิติเวลาต่อรอบในการแข่งขันในรายการ ซูซูก้า 8 ชั่วโมงขึ้นมาใหม่ และ เมื่อเกมส์การแข่งขันได้สู่วันแห่งการชิงชัยคือวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม การสตาร์ทได้เริ่มขึ้นในเวลา 11.30 น. กับการสตาร์ทในรูปแบบเลอมังค์สตาร์ท นั่นคือรถแข่งจะอยู่ในบริเวณข้างแทร็คฝั่งพีทเลน ส่วนนักแข่งจะอยู่ในฝั่งตรงข้ามตรงบริเวณฝั่งคนดู และ เมื่อเริ่มสัญญาณการแข่งขัน นักแข่งจะต้องวิ่งข้ามแทร็ค
มายังที่รถแข่งและทำการสตาร์ทเครื่องยนต์และบิดคันเร่งออกไป ถือเป็นเสน่ห์ของการแข่งขันรถในรายการซูซูก้า 8 ชั่วโมง โดยในรายการนี้มีรถแข่งลงชิงชัยมากถึง 84 คัน
เกมส์ออกสตาร์ท แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เมื่อ มือ1 ของทีมคัทซึยูกิ นากาซึกะ วิ่งไปถึงรถแข่งค่อนข้างช้ากว่าคนอื่นแต่ก็สามารถนำรถเกาะกลุ่มหน้าไปได้ จนถึงรอบที่ 25 นากาซึกะ รั้งตำแหน่งอันดับ 3 นำรถกลับเข้ามาในพิทเพื่อทำการเปลี่ยนตัวนักแข่งคนต่อไปซึ่งถึงคิวของ แบรดลี่ย์ สมิต รับช่วงเป็นคนต่อไปและอีกเพียง 3 รอบก็แข่งขันครบ 1 ชั่วโมง สมิตก็นำยามาฮ่า YZF-R1 ขยับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในทันที เกมส์ทวีความเข้มข้น โพล เอสปากาโร่ ก็สลับมาลงทำการแข่งขันบ้าง แม้จะเกิดความผิดพลาดในการไม่ปฏิบัติตามธงเหลือง จะทำให้ถูกเรียกเข้าไปรับโทษ Stop and Go 30 วินาทีที่พิมเลนแล้ว โพลก็นำรถกลับออกมาขี่แข่งขันกันต่อ
หลังผ่านชั่วโมงที่ 3 Yamaha Factory Racing Team ขยับกลับมาขึ้นนำอีกครั้งแม้จะสูญเสียตำแหน่งจ่าฝูงไปในช่วง การโดนลงโทษ แต่ก็กลับมาเป็นหัวแถว พร้อมทำระยะรอบการแข่งขันถึง 78 รอบสนามซูซูก้าเซอร์กิต
หลังผ่านชั่วโมงที่ 4 ครึ่งทางของการแข่งขัน Yamaha Factory Racing
Team ก็ยังคงนำการแข่งขันไปอย่างต่อเนื่อง วิ่งเข้าสู่รอบที่ 101 พอครบชั่วโมงที่ 5 กับรอบการแข่งขัน 125 รอบและชั่วโมงที่ 6 กลุ่มหน้าสองคันวิ่งนำอยู่ที่ 153 รอบสนาม จากนั้น Yamaha Factory Racing Team ก็กลับมาเร่งจังหวะในช่วงสองชั่วโมงสุดท้ายมากขึ้นจนขยับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง และ ขยับหนีห่างออกจากคู่แข่งทีม F.C.C. TSR Honda ออกไปเรื่อยๆทีละวินาทีสองวินาที จนเมื่อครบ 8 ชั่วโมงของการแข่งขัน แบรดลี่ย์ สมิต ที่ได้รับเกียรติแห่งความภาคภูมิ บิดยามาฮ่า YZF-R1 ผ่าความมืดในสนามในชั่วโมงสุดท้ายทะยานผ่านธงตราหมากรุกในทันทีที่ครบการแข่งขัน 8 ชั่วโมง พร้อมทำรอบการแข่งขันรวมทั้งหมด 204 รอบการแข่งขัน ทำเวลา 8 ชั่วโมง 00 นาที 29.708 วินาที โดยทำเวลาทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 1นาที17.411 วินาที โดยในรอบที่ 6 ของการแข่งขัน ยามาฮ่า YZF-R1 สามารถทำเวลาต่อรอบในช่วงการแข่งขันได้ดีที่สุดไว้ที่ 2'08.496 นาที ทั้งนี้ทีมแข่งที่วิ่งทำการแข่งขันครบ 8 ชั่วโมงมีอยู่ทั้งหมด 51 ทีมด้วยกัน
ถือเป็นการคว้าชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ของYamaha Factory Racing Teamที่สามาถกลับมาครองแชมป์ในรายการ ซูซูก้า เอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมงได้อีกครั้งในรอบ 19 ปี และยังเป็นชัยชนะครั้งที่ 5 ของยามาฮ่าอีกด้วย ชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นการคว้าแชมป์ให้กับยามาฮ่ามอเตอร์ในวาระการครบ 60 ปีด้วยเช่นกัน
หลังจบเกมส์การแข่งขัน 3 นักแข่ง Yamaha Factory Racing Team ได้กล่าวหลังจบเกมส์การแข่งขันไว้ดังนี้
คัทซึยูกิ นากาซึกะ กล่าวว่า " ในวันนี้ทีมงานของเราได้วางแผนการขับขี่ไว้ให้นักแข่งแต่ละ คนจะต้องลงขี่ในจำนวนรอบที่กำหนดไว้ และ ยังให้ผมทำหน้าที่ในการเป็นผู้ออกสตาร์ทในเกมส์การแข่งขันซึ่งถือว่าเป็นความกดดันค่อนข้างมากแต่ที่สำคัญเป้าของผมวันนี้ก็คือขี่ให้จบการแข่งขันให้ได้ ผมที่ผ่านมาเคยผ่านประสบการณ์การขี่ที่จะต้องออกจากการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว ผมอยากขอบคุณทุกๆคน ทีมงานช่างแม็คคานิสก์ ขอบคุณแฟนๆ ยามาฮ่า ที่ติดตามเชียร์ ดีใจที่สามารถนำแชมป์มาสู่ทีมอีกครั้งในช่วง 19ปี"
โพล เอสปากาโร่ กล่าวว่า " ผมมีความสุขมาก มันเป็นเกมส์การแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อ ผมต้องบอกว่าผมเสียใจต่อเพื่อนร่วมทีมที่ผมทำผิดพลาดจนทำให้เราต้องไป
Stop and Go จนทำให้เวลาเราหายไปหนึ่งนาที เพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนก็น่าประทับใจมากสามารถขี่เร็วซึ่งผมให้ 200% เลย และ ผมก็ออกไปขี่ในช่วงเวลาที่สามาถเรียกกลับมาได้อีก มันน่าประทับใจมากๆ และ ผมภูมิใจในนากาซึกะซังที่มีประสบการณ์ในซูซูก้า 8 ชั่วโมง เราทั้งสามคนรวมถึงแบรดลี่ย์ สมิต ที่มาจากโมโตจีพีด้วยกัน เราได้พูดคุยกันตลอดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ และถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ผมมีความสุขและมีเพื่อนที่ดีในการแข่งขัน 8 ชั่วโมง และ เราก็สามารถคว้าชัยชนะมาครองได้"
แบรดลี่ย์ สมิต กล่าวว่า " ตั้งแต่วันอังคาร วันที่ผมมาถึงที่บริษัทยามาฮ่าที่อิวาตะ เราได้สัญญากับทุกๆคนว่าเราจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งเรามีรถยามาฮ่าและเพื่อนร่วมทีมและ ทีมงานที่ดี แม้ในช่วงสามสี่วันเราอาจจะมีความผิดพลาดบ้างเล็กน้อยแต่ท้ายสุดเราก็ผ่านพ้นไปได้ ด้วยสมรถนะของยามาฮ่าYZF-R1 ด้วยความเร็วและการขับขี่ของเพื่อนร่วมทีม ก็สามารถนำมาซึ่งชัยชนะ ทั้งยังเป็นชัยชนะในการร่วมเฉลิมฉลอง ยามาฮ่ามอเตอร์ ครบ 6 0 ปี ทั้งยามาฮ่าก็ยังมีคะแนนสะสมนำในโมโตจีพี และยังโฟกัสมาที่รายการซูซูก้า เอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมง และผมดีใจที่ได้ร่วมแสดงศักยภาพที่แท้จริงของยามาฮ่า และให้พวกเขาได้กลับมาคว้าชัยชนะในรอบ 19 ปี ซึ่ง ยามาฮ่า สมควรได้รับเป็นอย่างยิ่ง"