วาเลนติโน่ รอสซี่ นักแข่งทีมมูวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี ออกสตาร์ทจากอันดับ 3 ในเกมโมโตจีพีที่สนามฮอลแลนด์ ก่อนที่จะขยับแซง มาร์ค มาเกรซ และ โยฮัน ซาโก้ ขึ้นมาเป็นผู้นำ ก่อนที่จะเปิดเกมดวลกับเดนิโร่ เปตรุซซี่ ในช่วง 8 รอบสุดท้ายท่ามกลางละอองฝนที่โปรยปรายลงมา แต่วาเลนติโน่ รอสซี่ก็ยังคงนำยามาฮ่า YZR-M1 ทะยานมุ่งสู่ความเป็นผู้นำต่อไปจนคว้าชัยชนะได้เป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้ และเป็นชัยชนะครั้งที่ 10 ในสนามแห่งนี้นับตั้งแต่เริ่มลงทำการแข่งขันในอาชีพนักแข่ง



        สองนักแข่งทีมมูวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี เริ่มต้นเกมการแข่งขันMotoGP สนามที่ 8 ที่ประเทศฮอลแลนด์ โดยในรอบการควอลิฟายนั้นสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปจากการซ้อมในช่วงFP โดยในวันควอลิฟายนั้นมีฝนตกลงมาตั้งแต่ในรอบFP4 ทำให้นักแข่งต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปรับเซ็ทรถ โดยเมื่อจบการควอลิฟายแล้ว วาเลนติโน่ รอสซี่ สามารถทำเวลาในการออกสตาร์ทอยู่ในอันดับ 4 เวลา 1'46.705 นาที ขณะที่ทีมเมทอย่าง มาเวอริค บีญาเลส ยังทำผลงานไม่ค่อยดี ออกสตาร์ทในอันดับที่ 11 เวลา 1'48.226 นาที
 


        โดยในรอบการแข่งขัน MotoGP สนามที่ 8 ที่สนาม TT Circuit Assen สภาพอากาศถือว่าค่อนข้างดีแต่ก็ยังมีเมฆปกคลุมและมีโอกาสจะเกิดฝนตกทุกเมื่อ ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น โยฮัน ซาโก้ ที่ออกสตาร์ทอันดับ 1 ทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ขณะที่วาเลนติโน่ รอสซี่ ที่ออกสตาร์ทอันดับ 4 สามารถขยับขึ้นรั้งที่ 3 ได้ จนถึงรอบที่ 11 วาเลนติโน่ รอสซี่ ขยับแซงมาร์ค มาเกรซ ขึ้นมารั้งที่ 2 ก่อนที่จะให้แฟนๆทั่วโลกได้เฮกันลั่นเมื่อในรอบถัดมาขยับแซงโยฮัน ซาโก้ ขึ้นมาเป็นผู้นำ จากนั้น "ยอดคุณหมอ"ก็โชว์ฟอร์มการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม และตัดสินใจในช่วง 8 รอบสุดท้ายเมื่อเกิดฝนตกลงมาโปรยปรายรอบสนาม แต่"เดอะด๊อกเตอร์"ก็เลือกที่จะขับขี่ต่อแม้จะมี เดนิโร่ เปตรุซซี่ ขยับขึ้นมากดันรวมถึง อังเดร โอวิซิโอโซ่ แต่วาเลนติโน่ รอสซี่ ก็ยังคงมุ่งมั่นในชัยชนะพร้อมทะยานผ่านธงตราหมากรุกเป็นคนแรกในการแข่งขันMotoGP สนามที่ 8 ที่ประเทศฮอลแลนด์ ทั้งยังเป็นการคว้าการคว้าชัยชนะครั้งที่ 10 ในสนามแข่งแห่งนี้ของวาเลนติโน่ รอสซี่นับตั้งแต่ลงทำการแข่งขันในเกมเวิร์ลด์คลาส ทั้งยังเป็นชัยชนะต่อเนื่องยาวนานเป็นระยะเวลา 20 ปี 313 วันที่นับจากการชนะครั้งแรกในการแข่งขันในระดับเวิร์ลด์กรังด์ปรีซ์ ของเดอะด๊อกเตอร์
 


       ส่วนเพื่อนร่วมทีม มาเวริค บีญาเลส แม้จะออกสตาร์ทในอันดับที่ 11 แต่ก็สามารถขึ้นมามาอยู่ที่ 10 เมื่อผ่านรอบแรกและขยับขึ้นมารั้งที่ 6 เมื่อเข้าสู่รอบที่ 10 และรอบที่ 11 ก็ขึ้นอยู่ในตำแหน่งท็อป5 ได้ แต่ก็ไปพลาดล้มลงอย่างน่าเสียดาย
 
       ชัยชนะในการแข่งขันMotoGP ที่ TT Circiut Assen ในครั้งนี้ ได้รับการเฉลิมฉลองของเหล่าแฟนคลับและกองเชียร์กันทั่วโลก รวมถึง "เสียงระฆัง" ของโบสถ์ที่ตั้งอยู่กลางเมือง Tavullia บ้านเกิดของวาเลนติโน่ รอสซี่ ได้ดังขึ้นอีกครั้ง เช่นในอดีตของช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ ที่ทุกครั้งประชากรในเมืองจะได้รับรู้ถึงชัยชนะของยอดคุณหมอ จากเสียงระฆังที่ดังขึ้นทุกๆครั้งที่ ยอดนักบิดจาก Tavullia คว้าชัยชนะมาครองได้ เป็นครั้งที่ 115 ของชีวิตนักแข่ง



     วาเลนติโน่ รอสซี่ ได้กล่าวหลังการจบการแข่งขันว่า "นี่เป็นชัยชนะที่มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่เพียงเพราะโอกาสในการลุ้นแชมป์เท่านั้น แต่มันคืออารมณ์ความรู้สึก การได้กลับมาเป็นอันดับหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่สวยงามอย่างมาก ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาผมเฝ้ารอความรู้สึกจากการแข่งขันเช่นนี้มาโดยตลอด หลังจากตลอดปีที่ผ่านมาผมไร้ซึ่งชัยชนะ นี่คือเกมการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม  การขับเคี่ยวกับเปตรุซซี่ก็เยี่ยม  เราได้มีการปรับรถแข่งรวมทั้งเปลี่ยนแชสซีส์ใหม่ ซึ่งนั่นทำให้ผมสามารถที่จะทำอะไรได้มากขึ้นเช่นที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ที่ผมสามารถจะขี่ได้มากขึ้นในแบบของผมในทิศทางที่ดีขึ้น ทุกอย่างเปิดกว้างขึ้น จากสนามแข่งหนึ่งสู่อีกสนามแข่งหนึ่งมันมีอะไรแตกต่างไปหลายอย่าง ดังนั้นผมยังคงต้องเฝ้ารอที่จะต้องเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเกมถัดไป ผมมีความรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งกับชัยชนะในเกมนี้ กับการชนะได้เป็นครั้งที่สิบบนแทร็คแห่งนี้ ในช่วงเวลาแรกที่ผมเริ่มคิดถึงโอกาสในการคว้าชัยนั้นก็คือเมื่อผมขยับตำแหน่งขึ้นมาได้ดี



   แล้วสามารถขยับยืดระยะนำห่างออกไปได้ แต่แล้วสถานการณ์ก็เริ่มยากลำบากเมื่อมีฝนโปรยตกลงมา ซึ่งมันจะทำให้ง่ายต่อความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และทุกๆสิ่งที่คาดหวังไว้นั้นก็อาจจะหลุดลอยไป แต่หลังจากที่ผมเปิดดวลกับเดนิโร่นั้นผมก็สังเกตได้ว่าคู่แข่งคนอื่นๆนั้นกำลังพยายามประคองตำแหน่งของตนไว้ ผมจึงลดจังหวะในการขี่ลงเล็กน้อยในช่วงสองรอบสุดท้ายเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด ซึ่งมันก็เพียงพอ "