สองนักแข่งทีมมูวี่สตาร์ท ยามาฮ่า โมโตจีพี สามารถแสดงศักยภาพในการแข่งขันท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาเมื่อ วาเลนติโน่ รอสซี่ สามารถทะยานขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงพร้อมรักษาความเป็นหนึ่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่นจนทำให้ทะยานเข้าเส้นชัยคว้าชัยชนะได้เป็นครั้งที่ 4 ของฤดูกาลและเป็นครั้งแรกในสนามซิลเวอร์สโตนประเทศอังกฤษในโมโตจีพีสนามที่ 12 ส่วนฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ก็ยังมีความแข็งแกร่งไม่แพ้กันขยับขึ้นจากอันดับ 5 ขึ้นมาเข้าเส้นชัยในตำแหน่งที่ 4 เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน
ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากสนามแห้งกลายเป็น แทร็คเปียก เมื่อมีฝนตกลงมาในช่วงการวอร์มอัพแล็บ ยังผลให้นักแข่งนำรถกลับเข้ามาเปลี่ยนที่หน้าพิทเลน ยังผลให้เกิดความคับคั้ง และ วุ่นวายเมื่อนักแข่งต่างพร้อมนำรถไปรอที่ปากทางพิทเพื่อทำการสตาร์ท ด้วยความวุ่นวาย และ อาจจะมีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ทำให้กรรมการตัดสินใจ ตีธงแดงเพื่อทำการรีสตาร์ทกันใหม่พร้อมประกาศให้ การแข่งขันในแทร็คเปียก ซึ่งหลังจากนั้นอีก 25 การแข่งขันก็ทำการรีสตาร์ทกันใหม่พร้อมกำหนดการแข่งเหลือ 20 สนาม
รีสตาร์ทกันใหม่ ทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับลง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาแบบบางๆอย่างต่อเนื่อง ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ในกริดสตาร์ทอันดับ 2 กลับพุ่งทะยานขึ้นไปนำได้ใน โค้งแรกโดยมี มาร์ค มาเควส ขยับตามต่อด้วย โพล เอสปากาโร่ และวาเลนติโน่ รอสซี่ เ พียงไม่กี่โค้งต่อมา รอสซี่ ขยับแซง โพล เอสปากาโร่ ขึ้นำรั้งที่ 3 และเปิดเกมส์ไล่กดดันสองนักแข่งที่อยู่เบื้องหน้า ผ่านรอบแรก ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ยังคงนำเป็นอันดับ 1ตามด้วยมาร์ค มาเควส และวาเลนติโน่ รอสซี่ เข้ารอบ 2 รอสซี่ที่ขับขี่ในสภาพแทร็คเปียกได้ดีขยับแซง มาร์ค มาเควส และ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ขึ้นมาเป็นผู้นำในทันที ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเดอะด๊อตเตอร์ที่แห่มาชม รอสซี่ กันเต็มสนาม จากนั้นแชมป์โลก 9 สมัยก็สามารถรักษาฟอร์มการขับขี่ในแทร็คเปียกได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ มาร์ค มาเควสจะพยายามไล่กดดันอย่างหนัก จนถึงรอบที่ 12 ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มาร์ค มาเควสเกิดไปพลาดจนต้องออกจากการแข่งขัน
หลังการล้มของคู่แข่งทำให้รอสซี่ผ่อนเกมส์ลงไป ทำให้กลุ่มหลังที่ตามมาเริ่มขยับเข้ามาใกล้ แต่รอสซี่ก็ได้รับการแจ้งเตือนจากทีมงานก็กลับมาเร่งจังหวะการขี่เพื่อรักษาช่องว่างให้ห่างอย่างปลอดภัย จนถึงรอบสุดท้าย วาเลนติโน่ รอสซี่ นำยามาฮ่า YZR-M1 ทะยานผ่านธงตราหมากรุก คว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 4ของฤดูกาลและเป็นการขึ้นโพเดี้ยมติดต่อกัน 12 สนาม และชัยชนะในสนามซิลเวอร์สโตนในครั้งนี้ถือเป็นการคว้าชัยชนะครั้งแรกบนสนามแห่งนี้ด้วย
ส่วนเพื่อนร่วมทีม ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่มีคะแนนสะสมนำอยู่คู่กันในช่วงก่อนการแข่งขันจะเริ่ม โดยในช่วงออกสตาร์ท ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ ออกสตาร์ทได้ดี และคว้า Holeshot ก่อนที่จะโดนมาร์ค มาเควสและ วาเลนติโน่ รอสซี่ แซง แต่ก็พยายามที่จะไล่เกาะกลุ่มหน้าเพื่อชิงชัยในตำแหน่งจ่าฝูงให้ได้ แต่ก็เกิดปัญหาในการมองเมื่อหมวกกันน็อคมีฝ่าขึ้นทำให้สูญเสียทัศนวิสัยในการขับขี่จนยังผลให้โดนคู่แข่งแซงจนหล่นไปอยู่อันดับที่ 6 แต่ในช่วงสุดท้าย ลอเรนโซ่ก็ได้แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ โดยขยับแซง เดนี่ เปโดรซ่า ขึ้นมาได้อีก 1 ตำแหน่งและเมื่อธงตราหมากรุกโบกสะบัด ลอเรนโซ่เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 5
วาเลนติโน่ รอสซี่ คว้า 25 คะแนนในสนามนี้ทำให้มีคะแนนสะสมกลับมานำเป็นอันดับ 1 บนตารางแชมป์โลกอีกครั้ง โดยมี 236 คะแนน ส่วนฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ มีคะแนนสะสม 224 คะแนน ในอันดับที่ 2 ส่วนมาร์ค มาเควส มีคะแนนสะสมตามหลังอันดับ 1 ถึง 77 คะแนนด้วยกัน ส่วนคะแนนสะสมแชมป์โลกประเภทผู้ผลิต ยามาฮ่าYZR-M1 มีคะแนนสะสมรวม 277 คะแนนทิ้งห่างอันดับที่ 2 ฮอนด้า RC212V อยู่ 62 คะแนน และคะแนนสะสมแชมป์โลกประเภททีม ทีมมูวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี มีคะแนนสะสมนำเป็นจ่าฝูงอยู่ที่ 460 คะแนน นำอันดับ 2 ทีมดูคาติ ที่มีคะแนนอยู่ 270 คะแนน
การแข่งขันในสนามต่อไปจะทำการแข่งขันกันที่สนามซานมาริโน่ ในวันที่ 13 กันยายน แฟนๆมอเตอร์สปอร์ตยามาฮ่า ติดตามผลงานของสองนักแข่งทีมมูวี่สตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพีกันได้
วาเลนติโน่ รอสซี่ กล่าวหลังจบเกมส์การแข่งขันว่า " ผมมีความสุขมากและมีความภูมิใจในชัยชนะนัดนี้ ผมคิดว่าในสนามที่ผ่านมาที่เป็นสนามเปียกนั้นผมได้ผลในการแข่งขันที่ดีมานับสิบปี เช้านี้ผมตื่นขึ้นมามีความรู้สึกที่ดี แต่ทีมงานของผมยังได้ทำงานที่ยอดเยี่ยมและรถแข่งของผมที่มีความพร้อมอย่างน่าอัศจรรย์จากรอบแรกของการวอล์มอัพ ผมรู้สึกดีและมีความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ ความคิดที่ดีขึ้นเรื่อยๆจากตัวรถแข่ง ทำให้ผมมีความพร้อมต่อการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น ผมต่อสู้กับมาร์คอย่างมากและผมก็พยายามที่จะหนีออกไปแต่เขาก็พยายามที่จะไล่ติดตาม ผมเห็นว่ามาร์คล้มไปที่บนหน้าจอขนาดใหญ่และ ผมก็ไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเขาอีกเลย หลังจากเขาล้มผมก็ชะลอความเร็วลง เพราะคิดว่าได้ทำระยะห่างจากกลุ่มหลังไปมาก แต่ในความเป็นจริงกลุ่มหลังก็ตามมาเร็วมาก ทำให้ผมต้องเร่งความเร็วขึ้นเพื่อไม่ให้กลุ่มหลังตามมาทัน นี่คือชัยชนะครั้งที่ 4 ของฤดูกาลนี้ของผม ผมมีความสุขมากและถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ วันนี้ผมขี่ได้อย่างรวดเร็วมากและผมมีความเชื่อมันในรถของผม เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สนามซิลเวอร์สโตนที่ที่ผมไม่เคยชนะมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก"
ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า " ช่วงเริ่มต้นกับยางสลิคเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก ดังนั้นผมมีความสุขมากเมื่อเริ่มมีฝนตกลงมาเพื่อให้เราได้เริ่มต้นที่ยางฝน ความรู้สึกในช่วงสามหรือสี่รอบแรกนั้นเป็นความรู้สึกที่ดี ผมขี่ได้ดี แต่ผู้ขับขี่คนอื่นๆก็เริ่มเร็วกว่าผม วาเลนติโน่ และมาเควสเริ่มแซงผ่านผมไปและผมอยู่ในตำแหน่งที่สามแต่ก็สูญเสียเวลา ในการขี่ในแต่ละรอบ พวกขี่ทำเวลาในการขับขี่ได้ดีกว่าและผมก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เหมือนกับคู่แข่ง แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เกือบทำผิดพลาดแต่ก็โชคดีที่ไม่เกิดอันตรายใดๆ มันเป็นความมหัศจรรย์มาก แต่ก็ยังทำให้อยู่ในตำแหน่งที่ 3 แต่เปรตรุซี่ โดวิซิโอโซ่และเปโดรซ่าก็แซงผ่านผมไป แต่ผมก็ขี่ได้เร็วขึ้นและแซงผ่านเปโดรซ่าขึ้นไป ในรอบสุดท้ายที่ผมได้เข้ามาใกล้โด วิซิโอโซ่ ที่ทำความผิดพลาดในการขับขี่แต่ผมก็เริ่มที่จะได้รับความหนาวเพราะฝนที่ตกลงมาหนักขึ้น ผมมีปัญหาในการมองทัศนวิสัยเพราะหมวกเป็นหมอก ทำให้ต้องชะลอความเร็วลง ทำให้สูญเสียการได้อันดับที่ 3 ไปอย่างน่าเสียดาย"